ไฟป่ายังร้อนแรง-บัวแล้งนํ้าที่สระกะพังสุรินทร์
Share this post on: Twitter Facebook
จากสภาพร้อนและแห้งแล้งครอบคลุมหลายพื้นที่ภาคใต้ นอกจากทำให้เกิดไฟป่า แหล่งน้ำแห้งเหือด ยังส่งผลกระทบต่อพืชหลายชนิด ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพอากาศที่ร้อนจัดกว่า 40 องศา ส่งผลให้ใบบัวในสวนสาธารณะสระกะพังสุรินทร์ ต.ทับเที่ยง เขตเทศบาลนครตรัง กว่า 100 ไร่ ใบไหม้แห้งกรอบติดต้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้ บัวออกดอกเต็มพื้นที่สระกะพังสุรินทร์ สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวและกลุ่มชาวบ้านที่ไปออกกำลังกายเป็นอย่างมาก จากการสอบถามประชาชนที่ออกกำลังกายบริเวณสวนสาธารณะสระกะพังสุรินทร์ ทราบว่า 3-4 วันที่ผ่านมา ใบบัวในสระน้ำกะพังสุรินทร์ เริ่มแห้งเป็นสีดำคล้ำเกือบทั้งสระ คาดว่าเกิดจากอากาศที่ร้อนจัด
นายสมหมาย ยอดเพชร ผอ. กองอนามัยและสิ่งแวดล้อมเทศบาลนครตรัง เปิดเผยว่า ผลจากการที่อากาศร้อนสูงมากในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ใบบัวแห้งเหี่ยวทั้งสระกะพังสุรินทร์ แต่เชื่อว่าไม่มีผลกับลำต้น เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝนใบบัวจะแตกขึ้นใหม่ และสวยงามเหมือนเดิม ขณะเดียวกัน ทางเทศบาลนครตรัง ได้เปิดเครื่องตีน้ำ เพื่อช่วยเพิ่มออกซิเจนให้กับสัตว์น้ำในสระกะพังสุรินทร์อีกด้วย
จ.นครศรีธรรมราช นายพิทักษ์ บริพิธ นายอำเภอชะอวด เผยว่า ช่วงนี้ มังคุดกำลังออกผล ต้องใช้น้ำมาก แต่หลายพื้นที่ไม่มีน้ำ ทำให้ใบตาย ดอกผลร่วงหมดต้น วิกฤติแล้งอย่างหนัก อ.ชะอวด มีพื้นที่ปลูกมังคุดกว่า 35,000 ไร่ จากพื้นที่พืชสวนกว่า 70,000 ไร่ สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรปีละ 5-10 ล้านบาท แต่ปีนี้ผลผลิตออกน้อย มีราคาแพง แต่ไม่สามารถขายได้เช่นกัน
ขณะเดียวกัน สถานการณ์ร้อนและแล้ง ส่งผลให้ไฟป่าที่เกิดขึ้นในป่าพรุ อ.ชะอวด ยังไหม้คุกรุ่นติดๆ ดับๆอยู่ในพื้นที่ป่าพรุควนเคร็งที่หมู่ 2, 4, 6, 7, 9 และ 11 ต.เคร็ง เนื้อที่หลายร้อยไร่ และไฟป่ายังคงคุกรุ่นไหม้ป่าชุมชนสวนสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ หมู่ 3 ต.ชะอวดเนื้อที่ 500 ไร่ จากเนื้อที่ทั้งหมด 1,500 ไร่ เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าลุ่มน้ำปากพนังและหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่พยายามช่วยกันดับไฟป่าอย่างเต็มที่ทั้งวันทั้งคืน
สถานการณ์ไฟป่า พื้นที่ อ.สุไหงปาดี และ สุไหงโก-ลก ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 พ.ค. นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดับไฟไหม้ป่า พร้อมทั้งร่วมวางแผนหามาตรการในการดับไฟป่า โดยมีนายธนิตย์ หนูยิ้ม ผอ.สำนักอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำ นายสุพจน์ เพริดพริ้ง ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 จ.สงขลา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ โดยที่ประชุมได้สั่งการให้นำรถแบ็กโฮเข้าปรับพื้นที่ให้เตียนราบเพื่อขยายแนวกันไฟให้มากขึ้น พร้อมทั้งขุดเจาะแหล่งน้ำในทุกระยะ 20 เมตร เพื่อสร้างเป็นแหล่งน้ำถาวรให้ชุดปฏิบัติการดับไฟป่าสามารถนำ เครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก เข้าดับไฟได้โดยสะดวก
ที่มา: thairath.co.th