อาฟเตอร์ช็อก 6.0 เขย่าซ้ำนอกชายฝั่งเอกวาดอร์ ยอดตายแผ่นดินไหวพุ่งทะลุ 600 ศพ
Share this post on: Twitter Facebook
เอเอฟพี – ชาวเอกวาดอร์ต้องขวัญผวาต่ออาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นหลายระลอกเมื่อวันศุกร์ (22 เม.ย.) ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 7.8 เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 600 ศพ และหมดหวังที่จะพบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติม
เมื่อเวลา 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นวันพฤหัสบดี (21) ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกขนาด 6.0 ที่นอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเอกวาดอร์ ติดตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อกขนาดย่อมอีกหลายระลอกในเช้าวันศุกร์ (22) โดยวัดความรุนแรงได้ตั้งแต่ 4.0 ไปจนถึง 5.2
แรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ที่จังหวัดมานาบี (Manabi) ซึ่งได้รับความเสียหายมากที่สุดจากเหตุแผ่นดินไหว 7.8 เมื่อวันเสาร์ที่ 17 เม.ย. รวมถึงที่จังหวัดเอสเมรัลดัส (Esmeraldas) และลอสรีออส (Los Rios) และที่กรุงกีโต เมืองหลวงของประเทศ แต่ล่าสุด ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต หรือความเสียหายเพิ่มเติม
ทางการเอกวาดอร์ ระบุว่า แผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว (17) ทำให้เกิดอาฟเตอร์ช็อกติดตามมากว่า 700 ครั้ง ซึ่งถือเป็นเหตุธรณีพิบัติครั้งเลวร้ายที่สุดในภูมิภาคละตินอเมริกา และแคริบเบียน นับตั้งแต่แผ่นดินไหวที่เฮติ เมื่อปี 2010 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไประหว่าง 200,000-250,000 คน
ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการจากแผ่นดินไหวในเอกวาดอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อยู่ที่ 602 ราย สูญหาย 130 คน บาดเจ็บ 12,492 คน และอีกกว่า 26,000 คน ต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน
อาคารบ้านเรือนเกือบ 7,000 หลังพังถล่ม และอีกกว่า 2,700 หลัง ได้รับความเสียหายบางส่วน
องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ขอระดมทุน 72.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวานนี้ (22) เพื่อนำไปเป็นทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเอกวาดอร์ราว 350,000 คน ตลอดระยะเวลา 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งตัวเลขนี้เป็นเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของผู้ประสบภัยทั้งประเทศที่ต้องการความช่วยเหลือ
องค์กรบรรเทาทุกข์ เตือนว่า ทางการเอกวาดอร์ยังต้องเตรียมมาตรการรับมือความเสี่ยงอีกหลายด้าน โดยเฉพาะผู้ประสบภัยไร้บ้านที่อาจล้มป่วยจากโรคซึ่งมียุงเป็นพาหะ และน้ำดื่มที่ไม่สะอาด
ประธานาธิบดีราฟาเอล กอร์เรีย แห่งเอกวาดอร์ ได้ประกาศแผนเก็บภาษีเงินได้เทียบเท่าค่าแรง 1 วันในทุกๆ เดือน ขึ้นภาษีการขายเป็นเวลา 1 ปี และเก็บภาษีสาธารณูปโภค ส่วนพลเมืองที่มีทรัพย์สินเกิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐก็จะต้องเสียสละทรัพย์สิน 0.9% เพื่อนำเงินเหล่านี้มาใช้ในการฟื้นฟูบ้านเมือง ซึ่งรัฐบาลประเมินว่าจะต้องใช้งบประมาณราว 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 2-3% ของจีดีพี
ที่มา Manager.co.th